เมนู

ด้านทิศอุดร (แห่งอนุราชบุรี) จนถึงท่าชมพูโกลปัฏฏนะตามคำของสุมน
สามเณร, ในวันที่เสด็จออกจากพระนคร ได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ตั้งศาลา
อันมีอยู่ที่ฝั่งสมุทรใกล้กับประตูด้านทิศอุดรนั่นเอง ได้ทอดพระเนตรเห็นต้น
มหาโพธิ์ ที่กำลังมาอยู่ในมหาสมุทรนั่นแล โดยสมบัตินั้น เพราะอานุภาพ
ของพระเถระ ทรงปลื้มพระหฤทัยเสด็จออกไป รับส่งให้เอาดอกไม้เบญจพรรณ
โปรยลงตลอดทางทั้งหมด ทรงตั้งเครื่องบูชาดอก* ไม้อันมีค่าไว้ในระหว่างทาง
เป็นระยะแล้ว เสด็จไปท่าชมพูโกลปัฏฏนะโดยวันเดียวเท่านั้น อันพวกพนักงาน
ตาลาวจรดนตรีทั่งปวงแวดล้อมแล้ว ทรงบูชา (ต้นมหาโพธิ์) อยู่ด้วยเครื่อง
สักการะทั้งหลาย มีดอกไม้ ธูปและของหอมเป็นต้น เสด็จลุยน้ำไปประมาณ
เพียงพระศอแล้วทรงรับสั่งว่า ต้นมหาโพธิ์ของพระทศพล ซึ่งฉายช่อพระรัศมี
ดุจมีชีวิตอยู่มาแล้วหนอ มีพระหฤทัยเลื่อมใสแล้ว จึงทรงยกต้นมหาโพธิ์ขึ้น
แล้ว วางลงบนพระเศียร อันเป็นอวัยวะสูงสุด พร้อมด้วยเหล่าตระกูที่
สมบูรณ์ด้วยชาติ 16 ตระกูล ผู้แวดล้อมต้นมหาโพธิ์ เสด็จขึ้นจากสมุทร
แล้วทรงพักต้นมหาโพธิ์ไว้ที่ริมฝั่งมหาสมุทร ทรงบูชาด้วยราชสมบัติในเกาะ
ตัมพปัณณิทวีปทั้งหมดสิ้น 2 วัน. ท้าวเธอทรงให้ตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยชาติ
16 ตระกูลสำเร็จราชการแทน. ภายหลังต่อมาในวันที่ 4 ท้าวเธอทรงรับเอา
ต้นมหาโพธิ์แล้ว ทรงทำการบูชาอยู่อย่างโอฬาร เสด็จถึงกรุงอนุราธบุรีโดย
สำดับ.

[พระเจ้าเทวานัมปิยดิสพักต้นมหาโพธิ์ไว้ในปูชนียสถาน 4 แห่ง]


พระราชา ครั้นทรงทำสักการะอย่างใหญ่ แม้ในกรุงอนุราธบุรี ใน
วันจาตุทสี (คือวันขึ้น 14 ค่ำ) นั่นเอง รับสั่งให้ส่งต้นมหาโพธิ์เข้าในทาง
* ฏีกาสารัตถทีปนี. แก้ว่า ให้ทำเจดีย์ดอกไม้ไว้ในระหว่างทางทั้ง 2 ข้าง น่าจะได้แก่
พุ่มดอกไม้นั้นเอง.